สีของสาย Fiber Optic มีความหมายและความสำคัญอย่างไร?

รู้หรือไม่? สาย Fiber Optic มีการแบ่งสีเพื่อบอกตำแหน่งและจัดเรียงลำดับเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน มาทำความเข้าใจองค์ประกอบเล็ก ๆ เหล่านี้กันมากให้ขึ้นที่นี่

สาย Fiber Optic ที่เราคุ้นตามักจะเป็นสายเส้นสีดำ บางเส้นอาจคาดด้วยสีต่าง ๆ เหมือนจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่จริง ๆ แล้วมันประกอบไปด้วยชั้นแก้วด้านนอก (Clad) และส่วนแกนแก้วด้านในหรือเส้นใยแก้วด้านใน (Core) ทั้งสองส่วนนี้อาจเคลือบด้วยชั้นป้องกัน (Cloating) ทำหน้าที่ป้องกันแสงจากภายนอก ชั้นด้านนอกจะเป็นตัวป้องกันสัญญาณแสงไม่ให้วิ่งออกมาจากด้านใน และช่วยให้ไม่หลุดออกจากแกนแม้สายจะโค้งงอตามจุดติดตั้ง ส่วนแกนแก้วด้านในนั้น คือสายใยแก้วเส้นเล็ก ๆ จำนวนมากรวมอยู่ด้วยกัน ซึ่งสายใยเหล่านี้มีการแบ่งสีเพื่อความสะดวกในการจำแนกและใช้งาน

แต่ก่อนจะเข้าเรื่องการแบ่งสี เรามาทำความเข้าใจชนิดและประเภทการใช้งานของสาย Fiber Optic กันอีกครั้ง

 

ชนิดของสาย Fiber Optic

สาย Fiber Optic แบ่งออกเป็น 2 ชนิด โดยแตกต่างกันที่ขนาดของเส้นใยแก้วด้านในที่ทำหน้าที่เป็นตัวนำสัญญาณ ส่งและโอนถ่ายข้อมูล ซึ่งขนาดของเส้นใยนี้จะมีผลต่อการเดินทางของสัญญาณแสง

1. สาย Fiber Optic ชนิด Single Mode
   เป็นสายที่มีเส้นใยแก้วเล็กมาก ทำให้ส่งสัญญาณได้จำนวนมาก อีกทั้งยังส่งได้อย่างรวดเร็วและไกล โดยนิยมใช้เป็นโครงข่ายสัญญาณเพื่อเชื่อมต่อกับสถานีหลักของระบบสื่อสารทั่วประเทศ
   
   
2. สาย Fiber Optic ชนิด Multimode
   สาย Fiber Optic ชนิดนี้จะมีขนาดใหญ่ มีหลากหลายขนาดใช้งานแตกต่างกันไป อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีขนาดใหญ่ ทำให้การเดินทางของแสงค่อนข้างกระจัดกระจาย เกิดการหักเหของแสง ส่งผลให้ส่งสัญญาณได้ในระยะสั้น เหมาะกับการนำไปใช้ในอาคารที่มีการส่งสัญญาณกันภายใน

 

ประเภทการใช้งานของสาย Fiber Optic

1. สาย Fiber Optic ประเภท Loose Tube
   เป็นสายไฟเบอร์ที่เหมาะกับการใช้งานภายนอกอาคาร มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม สายประเภทนี้จะบรรจุอยู่ภายในท่อสีขาวที่ได้รับมาตรฐาน ซึ่งสามารถกันความร้อนและน้ำได้เป็นอย่างดี สายไฟเบอร์ชนิดนี้สามารถจำแนกได้หลายรูปแบบตามการใช้งาน
   
   
2. สาย Fiber Optic ประเภท Tight Buffer
   สำหรับสายไฟเบอร์ชนิดนี้จะเหมาะกับการใช้งานในอาคาร จะมีฉนวนห่อหุ้มแกนชั้นนอกอย่างแน่นหนา ช่วยป้องกันแสงจากภายนอกได้เป็นอย่างดี ทำให้การรับส่งสัญญาณจากต้นทางไปยังปลายทางเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่ถูกรบกวน
   
   
3. สาย Fiber Optic ประเภท Indoor/Outdoor
   เป็นสายไฟเบอร์ ที่สามารถใช้ได้ทั้งภายนอกและภายในอาคาร เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษที่เรียกว่า Low Smoke Zero Halogen (LSZH) หากไฟไหม้ก็จะก่อให้เกิดควันน้อยและควันไม่เป็นพิษ

 

การแบ่งสีของสาย Fiber Optic

เนื่องจากมีจำนวนสายใยแก้วมากกว่าสายประเภทอื่น ๆ จึงจำเป็นต้องมีรหัสสีเพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานหรือคนที่เกี่ยวข้องสามารถทำงานได้อย่างสะดวกและเป็นไปตามมาตรฐาน โดยหลักการในการระบุและเรียงลำดับสีนั้นจะใช้มาตรฐาน “TIA-598-C” ของสมาคมอุตสาหกรรมการสื่อสารโทรคมนาคม (TIA / Telecommunications Industry Association)

การแบ่งและเรียงลำดับสีของสาย Fiber Optic จะแบ่งลำดับของเส้นใยแก้วแต่ละเส้นโดยใช้สี 12 สี ได้แก่

ลำดับ	สี
1	สีน้ำเงิน (Blue)
2	สีส้ม (Orange)
3	สีเขียว (Green)
4	สีน้ำตาล (Brown)
5	สีเทา (Slate)
6	สีขาว (White)
7	สีแดง (Red)
8	สีดำ (Black)
9	สีเหลือง (Yellow)
10	สีม่วง (Violet)
11	สีชมพู (Rose)
12	สีฟ้า (Aqua)

สำหรับเส้นใย (Core) ที่มีมากกว่า 12 เส้น จะแยกออกเป็นหลอดใหม่ (Tube) โดยจะเริ่มเรียงสีซ้ำใหม่ และสีของหลอดก็จะแตกต่างกัน โดยจะเรียงตามสีของเส้นใยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น สาย 24 เส้น จะมี 2 หลอด เริ่มจากหลอดสีน้ำเงิน 12 เส้น และหลอดสีส้ม 12 เส้น

สำหรับสายที่มีเส้นใยน้อยกว่า 12 เส้น จะนำไปใส่ใน Loose Tube และจะเรียกสายประเภทนี้ว่า Single Loose Tube ส่วนการแบ่งสีจะใช้หลักการเดียวกัน เช่น ในกรณีที่ในสายมีเส้นใย 6 เส้น ก็จะประกอบด้วยสีน้ำเงิน, ส้ม, เขียว, น้ำตาล, เทา, และสีขาว เมื่อแยกหลอดใหม่ก็จะเรียงตามสีเดิมอีกครั้ง

สำหรับสายที่มีเส้นใยมากกว่า 12 เส้น จะมีการเพิ่ม Loose Tube เข้าไป (Multi-Loose Tube) โดยแต่ละหลอดจะมีสีแตกต่างกันเพื่อบ่งบอกลำดับของกลุ่ม

การแบ่งสีของสาย Fiber Optic จะช่วยให้การจำแนกและเรียงลำดับง่ายขึ้น ทำให้การทำงานมีความเป็นมาตรฐานสากล

บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เรามีทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญ มีสินค้าที่ได้มาตรฐานสากล และด้วยประสบการณ์ในการทำงานมากกว่า 37 ปี เราพร้อมให้คำปรึกษาและมีตัวเลือกมากมายที่ตอบโจทย์การใช้งานทุกระบบ

สำหรับผู้ที่สนใจผลิตภัณฑ์สาย Fiber Optic เพื่อการใช้งานทั้งในและนอกอาคาร สามารถติดต่อเราได้ตามช่องทางต่อไปนี้

Website : https://interlink.co.th/home/home
Facebook : https://www.facebook.com/interlinkfan
Line ID : @interlinkfan
Tel : 02 666 1111