เลือกสายไฟโซล่าเซลล์ยังไงให้เหมาะกับการใช้งานระบบโซล่าเซลล์

เจาะลึกวิธีการเลือกสายไฟโซล่าเซลล์ เพื่อการเลือกใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

หนึ่งในปัญหาที่สามารถพบเจอได้บ่อยในการติดตั้งและใช้งานแผงโซล่าเซลล์ คือ ปัญหาเกี่ยวกับการเกิดเหตุอัคคีภัยหรือไฟไหม้ ที่มีสาเหตุมาจากการเลือกใช้งานสายไฟโซล่าเซลล์หรือสายไฟโซล่าที่มีขนาดเล็กเกินไปหรือมีการเชื่อมต่อสายไฟเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าหลาย ๆ ชิ้นที่ใช้กำลังไฟฟ้าสูง จนเป็นผลทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟเกิดการละลายจากความร้อนที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งานจนนำไปสู่การทำให้กระแสไฟฟ้าลัดวงจรและทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ได้ในท้ายที่สุด เพราะฉะนั้นแล้ว การเลือกใช้งานสายไฟโซล่าเซลล์อย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานระบบโซล่าเซลล์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยในบทความนี้ ILINK จะขอพาทุกคนไปร่วมเจาะลึกวิธีการเลือกสายไฟโซล่าเซลล์หรือสายไฟโซล่ามาใช้งานให้เหมาะสมกับการใช้งานในระบบโซล่าเซลล์มากที่สุด ดังนี้

1. ทำความเข้าใจเกี่ยวกับแรงดันไฟฟ้าของระบบแผงโซล่าเซลล์ก่อนการเลือกใช้งานสายไฟโซล่าเซลล์
   ก่อนที่จะทำการเลือกสายไฟโซล่าเซลล์หรือสายไฟโซล่ามาใช้งาน สิ่งสำคัญ คือ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระแสไฟฟ้า (current) และ voltage capacity ของระบบแผงโซล่าเซลล์ที่ได้เลือกนำมาใช้งาน ผ่านการศึกษาเอกสารจากบริษัทผู้ผลิตแผงโซล่าเซลล์อย่างละเอียดถี่ถ้วนทุกครั้ง เพื่อประโยชน์ในการคำนวณขนาดของสายไฟโซล่าเซลล์ได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด เนื่องจากการเลือกใช้งานสายไฟสำหรับโซล่าเซลล์ที่มีขนาดเล็กเกินไปอาจทำให้สายไฟเกิดการสะสมความร้อนจนเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ได้ ในขณะที่การเลือกสายไฟสำหรับโซล่าเซลล์ที่มีขนาดใหญ่เกินไปก็อาจส่งผลให้เกิดการสิ้นเปลืองงบประมาณในการติดตั้งโดยไม่จำเป็นได้
   
   
2. เลือกประเภทของสายไฟโซล่าเซลล์มาใช้งานกับระบบแผงโซล่าเซลล์อย่างเหมาะสม
   โดยทั่วไปแล้ว สายไฟที่เหมาะสำหรับการนำมาใช้งานร่วมกับระบบแผงโซล่าเซลล์จะต้องเป็นสายไฟที่มีคุณสมบัติในการทนทานต่อความร้อนที่อุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียสขึ้นไป แต่สำหรับสายไฟแบบทั่วไปที่มีฉนวนภายนอกที่ทำมาจากวัสดุประเภท PVC หรือ XLPE นั้นจะมีคุณสมบัติในการทนทานต่อความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 70 องศาเซลเซียสเท่านั้น เพราะฉะนั้นแล้ว การเลือกสายไฟโซล่าเซลล์มาใช้งานจึงจำเป็นที่จะต้องเลือกใช้เป็นสายไฟประเภท PV1-F สำหรับไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งเป็นสายทองแดงเคลือบดีบุกหุ้มฉนวน 2 ชั้น ที่สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมในการใช้งานที่มีทั้งแสงแดดและลมฝนได้เป็นอย่างดีเท่านั้น เนื่องจากสายไฟโซล่าดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อการนำมาใช้งานร่วมกับระบบแผงโซล่าเซลล์โดยเฉพาะเพื่อเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการใช้งานที่มากที่สุด
   
   
3. ให้ความสำคัญกับขนาดความยาวของสายไฟโซล่าเซลล์
   อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามไปในการเลือกสายโซล่าหรือสายไฟสำหรับโซล่าเซลล์มาใช้งาน คือ ขนาดความยาวของสายไฟโซล่าเซลล์ เนื่องจากความยาวของสายไฟสำหรับโซล่าเซลล์ล้วนมีผลเป็นอย่างมากต่อคุณสมบัติในการต้านทานและปริมาณการสูญเสียพลังงานของระบบแผงโซล่าเซลล์ โดยหากสายไฟโซล่าเซลล์มีความยาวมากก็จะยิ่งทำให้สายไฟมีความต้านทานมากยิ่งขึ้นแต่ในขณะเดียวกันก็จะทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานในระดับที่มากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น การเลือกขนาดความยาวของสายไฟสำหรับโซล่าเซลล์อย่างเหมาะสม ผ่านการคำนวณขนาดของสายไฟผ่านสูตร แรงดันที่สูญเสีย = กระแสไฟฟ้า x [0.02 x ความยาว(ม) / พื้นที่หน้าตัด (มม.2)] จึงช่วยทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกความยาวของสายไฟโซล่าได้ตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด

สำหรับผู้ใช้งานที่กำลังมองหาสายโซล่า สายไฟโซล่าเซลล์ ตลอดจนสายแลนและสายแลน UTP ประสิทธิภาพสูง ที่ตอบโจทย์การใช้งานภายนอกและภายในอาคารโดยมีรูปแบบของสาย LAN ให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลายตามความต้องการ ที่ ILINK เราคือผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำด้านเทคโนโลยีสาย LAN (สายสัญญาณเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์แบบ Ethernet) ที่ได้มีการบุกเบิกธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณคอมพิวเตอร์ สายแลน UTP สายสัญญาณสำหรับนำไปก่อสร้างเป็นโครงข่ายใยแก้วนำแสง มาอย่างยาวนานถึงกว่า 37 ปี พร้อมกันนี้เรายังได้มีการขยายธุรกิจไปสู่งานวิศวกรรมโครงการก่อสร้างสายไฟฟ้าแรงสูงใต้ทะเล (Submarine Cable) งานก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าแรงสูงทั้งใต้ดิน (Underground Cable) และบนดิน (Transmission Line) รวมถึงการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อการช่วยสนับสนุนทุกความต้องการในการใช้งานเทคโนโลยีสาย LAN ให้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่างแท้จริง

สนใจสอบถามข้อมูลสินค้าและบริการ หรือขอคำปรึกษา ขอใบเสนอราคา ได้ตามช่องทางเหล่านี้ที่คุณสะดวก
Website : https://interlink.co.th/home/home
Facebook : https://www.facebook.com/interlinkfan
Line ID : @interlinkfan
Tel : 02 666 1111