ทำความเข้าใจถึงความสำคัญของตู้แร็คสำหรับ Data Center

เราจะเห็นข่าวตามหน้าสื่อโซเชียลถึงเรื่องความสำคัญของข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการเงินของบริษัท หรือข้อมูลต่างๆ ที่แต่ละบริษัทหรือแต่ละองค์กร ไม่อยากให้หลุดรอดออกไปไหน การจัดการและเก็บรักษาข้อมูลให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย จึงเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรหลีกเลี่ยงไม่ได้ Data Center หรือศูนย์ข้อมูล จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานในโลกดิจิทัล และ "ตู้แร็ค" (Rack) ก็ถือเป็นผู้ช่วยที่สำคัญ ในด้านการจัดเก็บและบริหารจัดการอุปกรณ์ต่างๆ ใน Data Center ให้เป็นระเบียบ มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น วันนี้ อินเตอร์ลิ้งค์ จะพาทุกคนไปทำความรู้จักเจ้าตู้แร็คผู้ช่วยตัวสำคัญสำหรับจัดเก็บข้อมูล

 

Data Center คืออะไร

Data Center หรือศูนย์ข้อมูล เป็นสถานที่ที่รวบรวมเซิร์ฟเวอร์ อุปกรณ์เครือข่าย และระบบจัดเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้าน IT ขององค์กร ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล หรือการเชื่อมโยงข้อมูลในองค์กรระหว่างแผนก Data Center จึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ

 

Data Center มีประโยชน์อย่างไร

ความสำคัญของ Data Center มีดังต่อไปนี้

1. สำหรับการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ - เพื่อรองรับการเก็บข้อมูลในปริมาณมากได้อย่างปลอดภัย
2. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน - ช่วยให้ระบบ IT ทำงานได้อย่างราบรื่นและต่อเนื่อง
3. เพิ่มความปลอดภัยของข้อมูล - มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง เช่น Firewall และระบบสำรองข้อมูล
4. มีการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว - ช่วยให้การส่งข้อมูลระหว่างระบบเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น
5. การปรับปรุงและขยายตัวได้ง่าย - รองรับการเพิ่มอุปกรณ์หรือการอัปเกรดระบบในอนาคต

 

ตู้แร็คสำหรับ Data Center คืออะไร

ตู้แร็ค (Rack) เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อจัดเก็บเซิร์ฟเวอร์ และอุปกรณ์เครือข่ายใน Data Center ให้มีระเบียบและปลอดภัย โดยตู้แร็คจะมีโครงสร้างที่รองรับการติดตั้งอุปกรณ์หลายชิ้นในแนวตั้ง ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ และทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาอีกด้วย

 

ตู้แร็คสำหรับ Data Center มีไว้เพื่ออะไร

• สำหรับการจัดเก็บอุปกรณ์ให้เป็นระเบียบ - ช่วยลดความยุ่งเหยิงของสายเคเบิล ทำให้งานเดินสายดูเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น
• ช่วยป้องกันอุปกรณ์จากความเสียหาย - เช่น ความชื้น ฝุ่น หรือแรงกระแทก
• ช่วยเพิ่มความสะดวกในการบำรุงรักษาหรือทำความสะอาด - ช่วยให้เข้าถึงอุปกรณ์ได้ง่ายเมื่อต้องการตรวจสอบหรือซ่อมแซม
• ระบายความร้อนได้ดี - มีระบบระบายความร้อนที่ช่วยลดอุณหภูมิภายในตู้แร็ค
• รองรับการจัดการสายเคเบิล - ทำให้สายเคเบิลเป็นระเบียบและง่ายต่อการติดตั้ง

 

ตู้แร็คมีทั้งหมดกี่ประเภท และเหมาะกับการใช้งานด้านใดบ้าง

1. Open Frame Rack
   เป็นตู้แร็คแบบไม่มีผนังหรือประตู เหมาะสำหรับห้อง Data Center ที่มีการควบคุมอุณหภูมิและความปลอดภัย ยกตัวอย่างเช่น การติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายที่ต้องการระบายความร้อนสูง
2. Wall-Mount Rack
   เป็นตู้แร็คติดผนัง เหมาะสำหรับสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัด เช่น ห้องสำนักงานขนาดเล็ก ตัวอย่างเช่น การติดตั้ง Router หรือ Switch
3. Server Rack
   ตู้แร็คที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเซิร์ฟเวอร์ จะมีความแข็งแรงและสามารถระบายความร้อนได้ดี ตัวอย่างเช่น การติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ใน Data Center
4. Cabinet Rack
   ตู้แร็คจะมีประตูและผนังล้อมรอบ มันจึงเหมาะกับการเก็บอุปกรณ์ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ข้อมูลของลูกค้าในธนาคาร หรือบริษัทที่ต้องการปกป้องข้อมูลสำคัญ

 

การติดตั้งตู้แร็คมีวิธีการอย่างไร?

• เลือกพื้นที่ติดตั้ง - ต้องเป็นพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดีและปลอดภัย
• เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม - ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ที่จะติดตั้ง เช่น สายเคเบิ้ลต่างๆ
• จัดเรียงอุปกรณ์ในตู้แร็ค - เริ่มจากอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมากอยู่ด้านล่างและค่อยไล่ขึ้นไปด้านบน
• ติดตั้งสายเคเบิล - สามารถใช้รางหรือคลิปเพื่อช่วยจัดระเบียบสายไฟได้
• ตรวจสอบระบบระบายความร้อน - ควรติดตั้งพัดลมหรือระบบระบายความร้อนให้เหมาะสม

 

เราจะเลือกสายเคเบิลให้เหมาะกับตู้แร็คได้อย่างไรบ้าง

• เลือกขนาดความยาวของสายเคเบิลที่เหมาะสม - ควรหลีกเลี่ยงสายที่ยาวเกินไปเพื่อลดความยุ่งเหยิงของสายเคเบิล
• เลือกสายเคเบิลที่มีฉนวนคุณภาพสูง - เพื่อป้องกันการรบกวนสัญญาณ
• ใช้สายเคเบิลที่มีมาตรฐาน - เช่น Cat5e, Cat6 สำหรับการเชื่อมต่อเครือข่าย

 

มาตรฐานความปลอดภัยของตู้แร็คสำหรับ Data Center ควรเป็นแบบใด

1. การป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
   ตู้แร็คควรมีการต่อสายดินที่ได้มาตรฐาน เพื่อป้องกันไฟฟ้าสถิตหรือไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น ตู้แร็คที่ติดตั้งในอาคารสำนักงาน ต้องมีสายดินที่เชื่อมต่อกับระบบกราวด์ของอาคาร เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าช็อต และลดความเสี่ยงต่ออุปกรณ์ที่อยู่ภายใน
   
   
2. ระบบระบายความร้อน
   ตู้แร็คควรมีพัดลมหรือระบบระบายความร้อน ที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในตู้ ตัวอย่างเช่น การติดตั้งตู้แร็คใน Data Center ขนาดใหญ่ ควรมีระบบ HVAC (Heating, Ventilation, and Air Conditioning) เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมสำหรับการทำงานของเซิร์ฟเวอร์
   
   
3. การล็อกตู้แร็ค
   ตู้แร็คควรมีระบบล็อกที่มีประสิทธิภาพ เช่น กุญแจล็อก รหัสผ่าน หรือล็อกแบบดิจิทัล เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ตัวอย่างเช่น บริษัทที่จัดการข้อมูลลูกค้าในอุตสาหกรรมการเงิน การธนาคาร มักใช้ตู้แร็คที่มีระบบล็อกหลายชั้น และติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อเสริมความปลอดภัย

การเลือกและติดตั้งตู้แร็คที่เหมาะสมสำหรับ Data Center เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยให้กับระบบ IT ของทุกองค์กร ดังนั้น การทำความเข้าใจประเภทและมาตรฐานของตู้แร็ค จะช่วยให้องค์กรสามารถจัดการกับอุปกรณ์ได้อย่างมืออาชีพ และยังสามารถยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ได้ในระยะยาวอีกด้วย

 

หากคุณกำลังมองหา ตู้แร็ค ที่เหมาะกับบริษัทหรือองค์กรของคุณ มาปรึกษากับเรา บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ด้วยประสบการณ์ในการทำงานมากว่า 35 ปี จนได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเรามีทีมวิศวกรที่แข็งแรงในการวางระบบต่างๆ และเรายังมีสินค้าและบริการอีกมากมาย อาทิ สาย CCTV สาย LAN สายไฟเบอร์ สาย Control Cable Solar Cable Network System ฯลฯ

 

สนใจสอบถามข้อมูลสินค้าและบริการ หรือขอคำปรึกษางานวางระบบสายสัญญาณ ขอใบเสนอราคา ได้ตามช่องทางเหล่านี้ที่คุณสะดวก

Tel : 02 666 1111
Facebook: interlinkfan
Line: @interlinkfan
Tiktok: @interlink_official
YouTube: link channel