ความแตกต่างของสาย fiber optic 12 core และ 24 core
07/06/2024
ความแตกต่างของสาย fiber optic 12 core และ 24 core
สายไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic Cable) คืออะไร?
สายไฟเบอร์ออฟติก คือสายสัญญาณจากใยแก้วนำแสงที่หุ้มด้วยใยแบบพิเศษที่ป้องกันการกระแทก เป็นตัวนำส่ง และถ่ายโอนข้อมูลไม่ว่าจะเป็นภาพหรือวิดีโอด้วยความเร็วสูง ซึ่งการใช้สายไฟเบอร์ที่ทำจากแบบใยแก้วจะมีความสามารถส่งสัญญาณได้ไกลหลักหลายร้อยกิโลเมตร มีเสถียรภาพสูง ให้ประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่อุปกรณ์ Network จะสามารถทำได้ เมื่อเทียบการใช้งานกับ Wireless สายไฟเบอร์ออฟติกจะมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า จึงเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน โดยสายไฟเบอร์ออฟติกจะมีส่วนประกอบหลักก็คือ ชั้นแก้วด้านนอก (Cladding) และแกนใยแก้วด้านใน (Core) ที่ทำหน้าที่นำส่งสัญญาณ ซึ่งขนาดของ Core ในปัจจุบันก็มีหลายขนาด เช่น fiber optic 12 core 24, 48, 60 ไปจนถึง 120 ก็ผลต่อการเดินทางของสัญญาณแสงเร็วช้าแตกต่างกันไปตามขนาดของCore
ประเภทของสายไฟเบอร์ออฟติก
- สายไฟเบอร์ออฟติกชนิด Single Mode (Fiber Optic Cable Single-Mode) : หรือเรียกแบบย่อได้ว่า SM เป็นสายที่มีขนาด Core เล็กมากเพียง 9 ไมครอน ขนาด Core ของ Single mode จะอยู่ที่ 9/125 µm (OS1, OS2) ออกแบบมาให้การนำแสงเป็นเส้นตรงในระยะทางไกล ตั้งแต่ 5 กิโลเมตร ถึง 120 กิโลเมตร สามารถส่งได้เป็นจำนวนมากและรวดเร็ว ซึ่งหากนำไปใช้เป็นสายส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็น10Mbps, 100Mbps หรือ 1000Mbps (1Gbps) จะสามารถส่งสัญญาณได้ไม่จำกัดและความเร็วไม่ลดลง นอกจากนั้น สายไฟเบอร์ออฟติกชนิดนี้ ยังนิยมนำไปใช้เป็นโครงข่ายสัญญาณเพื่อเชื่อมต่อกับสถานีหลักของระบบสื่อสารทั่วประเทศไปจนถึงระดับภูมิภาคได้อีกด้วย
- สายไฟเบอร์ออฟติกชนิด Multimode (Fiber Optic Cable Multimode) : หรือเรียกแบบย่อได้ว่า MM สายไฟเบอร์ออฟติกประเภทนี้จะมีความเร็วถูกจำกัดไว้ เพราะมีขนาด Core ที่ใหญ่กว่าแบบ Single Mode โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางของ Core อยู่ที่ 50 ไมครอน ซึ่งขนาด Core ของ Multi mode จะมี 2 ขนาดซึ่งถูกแบ่งออกมาเป็น 5 ประเภท คือ 62.5/125 µm (OM1), 50/125 µm (OM2), 50/125 µm (OM3), 50/125 µm (OM4), 50/125 µm (OM5) ทำให้แสงมีการเดินทางที่ค่อนข้างกระจัดกระจาย จึงเหมาะสำหรับใช้เฉพาะการนำส่งข้อมูลในระยะที่สั้น เช่น การใช้งานฉพาะภายในตึกและอาคารบ้านเรือน แบบไม่ต้องมีการเดินสายในระยะทางไกล
- การทำงานของสายไฟเบอร์ออฟติก 12 core และ 24 core เป็นสายที่มีเส้นใยแสงออปติก 12 เส้นและ 24 เส้น ภายในหนึ่งสายเดียวกัน โดยแต่ละเส้นใยแสงเป็นตัวที่สามารถส่งข้อมูลได้แยกกัน มีความสามารถในการส่งข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและมีความเร็วสูง ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการสื่อสารในระยะทางที่ไกลและต้องการความเร็วในการส่งข้อมูลสูง
- ประโยชน์ของสาย fiber optic 12 core และ 24 core ความสามารถในการส่งข้อมูลที่มีความเร็วและประสิทธิภาพสูง เนื่องจากสามารถส่งข้อมูลพร้อมกันในหลายๆ เส้นใยแสงพร้อมกัน เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะทางที่ไกลและสามารถใช้ในโครงข่ายที่มีขนาดใหญ่อย่าง Data Center ได้ นอกจากนั้นก็ยังสามารถใช้งานในการติดตั้งที่หลากหลาย ฝังดิน, แขวนเสาไฟฟ้า, เดินตามท่อ, แขวนในอากาศโดยไม่ต้องมี Sling และช่วยลดจำนวนสายเคเบิลที่เยอะเกินไปได้อีกด้วย
สาย fiber optic 12 core และ 24 core แตกต่างกันอย่างไร? และควรเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม
- ความจุในการส่งข้อมูล (Bandwidth) : สายไฟเบอร์ออฟติก 12 core จะมีความจุในการส่งข้อมูลน้อยกว่า 24 core เนื่องจากมีจำนวนของ core (แกนใย) น้อยกว่า
- ความยืดหยุ่นในการใช้งาน (Flexibility) : สายไฟเบอร์ออฟติก 12 core มักจะเล็กกว่า และมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า 24 core ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีพื้นที่จำกัดหรือการติดตั้งที่จำเป็นต้องใช้สาย Fiber Optic ที่มีขนาดเล็ก ส่วนสายไฟเบอร์ออฟติก 24 core ไม่เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่มีพื้นที่จำกัดหรือมีความซับซ้อน เพราะมีขนาดใหญ่เนื่องจากมีจำนวนของ core มากขึ้น
- ราคาที่แตกต่างกัน (Cost) : สายไฟเบอร์ออฟติก 12 core มักจะมีราคาที่ถูกกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับ 24 core เพราะมีจำนวนของ core น้อยกว่า
ประเภทของสาย fiber optic 12 core หรือ 24 Core สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
- สายไฟเบอร์ออฟติกที่ใช้ใน Indoor : เป็นสายที่ใช้ภายในอาคาร มี pvc หุ้มอยู่ซึ่งมีความยืดหยุ่นและเป็นสายที่ ไม่ลามไฟ แต่ก็ไม่ควรใช้ภายนอกอาคาร
- สายไฟเบอร์ออฟติกที่ใช้ใน Outdoor : เป็นสายที่ใช้สำหรับใช้ภายนอกอาคาร สายภายนอกจะหุ้มด้วยวัสดุ PE ที่มีความทนทานแต่แสงแดดและฝนได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก วัสดุ PE จะมีความทนทานต่อสภาพอากาศได้แต่ไม่ควรนำไปใช้ในอาคารเนื่องจากเป็นวัสดุสามารถติดไฟได้
- สายไฟเบอร์ออฟติกที่ใช้ได้ทั้ง Indoor/Outdoor : ปัจจุบันได้มีนวัตกรรมของวัสดุที่เรียกว่า PE with LSZH ที่มีความทนทานสูงจึงสามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เพราะทนได้ทั้งแสงแดด ลมฝนและไม่ลามไฟ ไม่มีสารพิษ สามารถทนแรงดึงที่สูงกว่าอีกด้วย มีทั้ง Multimode และ Single mode ให้คุณได้เลือกใช้
นอกจากนั้น การเลือกใช้สาย fiber optic 12 core หรือ 24 Core มีข้อดีและข้อเสียที่ควรพิจารณาอย่างละเอียด เพื่อให้ตรงกับความต้องการและการใช้งานของแต่ละระบบ ดังนี้ :
ข้อดีของสายไฟเบอร์ออฟติก 12 Core
- สาย Fiber Optic 12 Core เหมาะสำหรับการใช้งานในอาคารหรือเครือข่ายขนาดเล็กที่ไม่มีความต้องการในการสื่อสารมากมาย
- สาย Fiber Optic 12 Core มักมีราคาที่ถูกกว่า ซึ่งเหมาะสำหรับงบประมาณที่จำกัดหรือโครงการที่มีขนาดเล็ก
ข้อเสียของสายไฟเบอร์ออฟติก 12 Core
- มีจำนวนช่องสื่อสารน้อยกว่า 24 Core ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอสำหรับโครงข่ายที่มีความต้องการในการสื่อสารมากๆ หรือในการขยายขนาดในอนาคต
ข้อดีของสาย Fiber Optic 24 Core
- สาย Fiber Optic 24 Core มีจำนวนช่องสื่อสารมากขึ้น ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในโครงข่ายที่มีขนาดใหญ่และมีความต้องการในการสื่อสารมาก
- มีความสามารถในการรองรับการขยายขนาด เพราะมีจำนวนช่องสื่อสารมากสามารถรองรับการขยายขนาดของระบบได้ดีกว่า
ข้อเสียของสายไฟเบอร์ออฟติก 24 Core
- สาย Fiber Optic 24 Core มักมีราคาที่สูงกว่า ซึ่งอาจทำให้ไม่เหมาะสมกับโครงการที่มีงบประมาณจำกัดหรือไม่มีความต้องการในการสื่อสารมากมาย
บทสรุป : การเลือกใช้สาย fiber optic 12 core หรือ 24 Core ขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของแต่ละระบบ หากต้องการความยืดหยุ่นในการขยายขนาดและมีความต้องการในการสื่อสารมากๆ สาย Fiber Optic 24 Core อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่หากโครงการมีขนาดเล็กและมีงบประมาณจำกัด สายไฟเบอร์ออฟติก12 Core ก็อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมในบางกรณี ฉะนั้น ก่อนจะเลือกใช้สายไฟเบอร์ออฟติกแบบใดก็ควรพิจารณาค่าใช้จ่าย และความสามารถในการขยายขนาดของระบบอย่างละเอียดก่อนการตัดสินใจใช้งานก็จะคุ้มค่ามากที่สุด
หากคุณกำลังมองหาสายไฟเบอร์ออฟติก ไม่ว่าจะเป็น สาย fiber optic 12 core หรือ 24 Core บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เราเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน อาทิ link สายแลน, สายแลน utp, สายไฟโซล่าเซลล์, สาย pv link, ตู้ rack link, สาย control cable และสายกล้องวงจรปิด คุณภาพสูงที่ผ่านมาตรฐาน TIA มาตรฐาน UL และมาตรฐาน AD8 ที่เป็นมาตรฐานสูงสุด
บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)
48 อาคารอินเตอร์ลิ้งค์ ซอยรุ่งเรือง ถนนรัชดาภิเษก แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310
สนใจสอบถามข้อมูลสินค้าและบริการ หรือขอคำปรึกษา ขอใบเสนอราคา ได้ตามช่องทางเหล่านี้ที่คุณสะดวก Website : https://interlink.co.th/home/home
Facebook : https://www.facebook.com/interlinkfan
Line ID : @interlinkfan
Tel : 02 666 1111