PoE (Power over Ethernet) เป็นเทคโนโลยีในการส่งไฟฟ้าแบบ DC ไปในสาย UTP (LAN) เพื่อจ่ายไฟเลี้ยงให้กับอุปกรณ์ที่รองรับ PoE ในการทำงาน เช่น Wireless Access Point, IP CCTV, IP Phone และ Access Control เป็นต้น โดยช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตั้งใช้งานอุปกรณ์ เนื่องจากไม่ต้องติดตั้งสายไฟฟ้า และเต้ารับไฟฟ้าเพิ่มเติม อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้ โดยการเลือกซื้อ PoE Switch ให้สามารถรองรับการใช้งานในปัจจุบัน และอนาคต มีกำลังไฟเพียงพอต่อการใช้งาน และเหมาะสมกับสภาพหน้างาน ถือเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะหากเราเลือกซื้อ PoE Switch ที่ไม่เหมาะสมกับงาน ก็อาจทำให้ PoE Switch ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือ เกิดความเสียหายได้ ดังนั้น 5 สิ่งที่ควรพิจารณาเลือก PoE Switch มีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

1. ความเร็วในการใช้งาน 

    ความเร็วในการส่งข้อมูลในระบบเครือข่ายไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งข้อมูลอาจจะมีจำนวนและความสลับซับซ้อนที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น ความเร็วในการใช้งานจึงถือเป็นสิ่งที่ควรนำพิจารณาในการเลือกใช้งาน โดย PoE Switch ของ LINK มีให้เลือก 2 ความเร็ว ได้แก่ 10/100 (Fast Ethernet) และ 10/100/1000 (Gigabit Ethernet)

2.กำลังไฟต่อพอร์ตและจำนวนพอร์ต ที่ต้องการใช้งาน

    กำลังไฟแต่ละพอร์ตต้องมีกำลังไฟเพียงพอในการจ่ายให้กับอุปกรณ์ปลายทาง ซึ่งอย่างน้อยต้องเป็นไปตามตามมาตรฐาน IEEE 802.3af/at และจำนวนพอร์ต RJ45 ของ PoE Switch ต้องมีเพียงพอต่ออุปกรณ์ปลายทางที่จะนำมาเชื่อมต่อผ่าน สาย LAN ทั้งหมด เมื่อได้จำนวนพอร์ตปัจจุบันแล้ว ให้ทำการเผื่อพอร์ตสำรอง เพื่อรองรับความต้องการในอนาคตด้วย เช่น มีกล้องวงจรปิด 4 ตัว ควรเลือก PoE Switch จำนวน 8 พอร์ต เป็นต้น

3.จำนวน SFP พอร์ตที่ต้องการใช้งาน

    การใช้งาน PoE Switch  เราจำเป็นจะต้องคำนึงถึงระยะทางในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆในระบบเครือข่าย เนื่องจากการเชื่อมต่อแบบ Ethernet ที่ใช้สาย LAN นั้น ไม่ควรมีระยะเกิน 100 เมตร แต่หากมีการใช้งานที่มีระยะทางเกินกว่า 100 เมตรขึ้นไป แนะนำให้ใช้พอร์ต SFP สำหรับเชื่อมต่อเครือข่ายผ่านสาย Fiber Optic อีกทั้งยังสามารถรองรับความต้องการที่จะขยายระบบในอนาคตได้

4.กำลังไฟของอุปกรณ์ที่ต้องนำมาใช้งาน และกำลังไฟรวมทั้งหมด

    การใช้งาน PoE Switch เราจำเป็นต้องดูว่ารุ่นที่เราจะเลือกใช้งานนั้นมีความสามารถในการจ่ายไฟรวมทั้งหมดกี่วัตต์ และจำเป็นต้องคำนึงถึงกำลังไฟของอุปกรณ์ที่ทุกตัวจะนำมาใช้งาน เพื่อพิจารณาว่า PoE Switch มีความสามารถในการจ่ายกำลังไฟเพียงพอกับอุปกรณ์ปลายทางทุกตัวหรือไม่ เช่น มีกล้องวงจรปิด 4 ตัว แต่ละตัวกินไฟ 10 วัตต์ ควรเลือก PoE Switch  ที่สามารถจ่ายกำลังไฟมากกว่า 40 วัตต์ เป็นต้น 

5.ลักษณะการนำไปติดตั้งใช้งาน

    สุดท้ายที่สำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณา คือ ลักษณะการติดตั้งใช้งาน PoE Switch ว่าใช้งานภายใน หรือ ภายนอกอาคาร เนื่องจากสภาพแวดล้อมในการนำไปติดตั้งนั้นมีผลต่อการทำงานของ PoE Switch จึงจำเป็นต้องเลือกอุปกรณ์ให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานเพื่อยืดอายุการใช้งานและเป็นไปตามมาตรฐาน เช่น หากต้องการติดตั้ง PoE Switch ในตู้ CCTV Outdoor ภายนอกอาคาร ควรเลือก Industrial PoE Switch ที่มีความทนทานสูงกว่า PoE Switch ทั่วไป เป็นต้น

• ตัวอย่างรุ่นที่แนะนำ
  

Indoor (ติดตั้งใช้งานภายในอาคาร)

PSG-5008A

PSG-5124+

Outdoor (ติดตั้งใช้งานภายในตู้ CCTV ภายนอกอาคาร) 

PS-3140

PS-3180