13/08/2024
ILINK เป็นปลื้ม ! กอบโกยรายได้ 6 เดือนแรกรวม 3,318.66 ล้านบาท ยิ้มรับกำไร 379.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.86% ทำผลงานหนุนภาพรวมครึ่งปีแรกสดใส เป็นผลจากศักยภาพในการขับเคลื่อนทุกธุรกิจจากความเชี่ยวชาญ โดยครึ่งปีหลัง ปักธงชัด ผลักดันเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ให้ก้าวทันยุคสมัย ชูรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้โตแกร่ง เพื่อทำรายได้ และกำไรทั้งปีในครึ่งปีหลังอย่างมีคุณภาพ โตตามแบบแผนที่ตั้งไว้ พร้อมทยอยรับรู้รายได้เพิ่ม Backlog ในมือล้น จ่อประมูล เซ็นต์สัญญางานเพียบ เเตรียมยิ้มรับตัวเลขสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนตลอดทั้งปีตามที่คาดการณ์
ILINK หรือ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำเข้า และค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ โดยนับเป็นความความมุ่งมั่นกว่า 38 ปี ของผู้ก่อตั้งที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศไทย โดยกลุ่ม ILINK ได้รับการจัดระเบียบออกเป็น 3 ส่วนธุรกิจหลัก ซึ่งแต่ละส่วนสอดคล้องกับแนวโน้มในปัจจุบันในด้านเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน เหล่านี้ คือ
สำหรับในไตรมาส2/67 นี้ ฟอร์มดี ทำรายได้รวมครึ่งแรกของปี 67 อยู่ที่ 3,318.66 ล้านบาท กำไรสุทธิโต 379.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 62.93 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 19.86% โดยมี อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 11.45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งนับว่าสามารถทำอัตรารายได้ และทำกำไรครึ่งแรกของปีเพิ่มขึ้นได้อย่างมีคุณภาพ โตตามความคาดหมาย จากการดำเนินธุรกิจที่หลากหลายในทุกภาคส่วน ทั้ง การจัดจำหน่ายสายสัญญาณ วิศวกรรมโครงการ และโทรคมนาคม ช่วยให้กลุ่มบริษัทฯ บรรลุผลทางการเงินที่แข็งแกร่งในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 และสามารถใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังดำเนินอยู่ แต่ละส่วนธุรกิจนำเสนอแนวโน้มการเติบโต ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตผ่านการลงทุนอย่างต่อเนื่องในนวัตกรรม และความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล โมเมนตัมการเติบโตของ ILINK คาดว่าจะยั่งยืนในปีต่อ ๆ ไป
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ ยังคงเป็นธุรกิจหลักที่ทำรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้ ทำรายได้จากการขายรวม 6 เดือนแรก อยู่ที่ 1,500.59 ล้านบาท ทำกำไรครึ่งปีแรกรวม 165.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.03 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 4.44% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยทำอัตตรากำไรสุทธิครึ่งแรกของปี อยู่ที่ 11.03% เป็นผลสืบเนื่องจากที่โลกเปลี่ยนจากยุคอุตสาหกรรมไปสู่ยุคการสื่อสาร และยุคพลังงาน อิทธิพลของปัญญาประดิษฐ์ก็เพิ่มมากขึ้น โดยนำเสนอโอกาสทางธุรกิจในการจัดจำหน่ายสายสัญญาณจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก รวมถึง LINK® AMERICAN CABLING และ 19" GERMANY EXPORT RACK นี้ โดยมีความต้องการได้รับแรงหนุนจากปัจจัยสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นโยบายพลังงานแสงอาทิตย์ และนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ ดังนั้น ธุกิจการจัดจำหน่ายสายสัญญาณ จึงมีแนวโน้มการเติบโต และผลการดำเนินงานเชิงบวกก็เริ่มรับรู้เป็นรูปธรรม
ส่วนนี้ได้รับประโยชน์จากความต้องการโซลูชั่นเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน AI และพลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับแบรนด์ระดับโลกที่โดดเด่น เช่น LINK® และ GERMANY EXPORT RACK ช่วยให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองความต้องการโซลูชั่นการเดินสายเคเบิลขั้นสูงที่เพิ่มขึ้นได้
สำหรับธุรกิจวิศวกรรมโครงการ ด้านผลประกอบการไตรมาส 2/67 ทยอยรับรู้รายได้รวม 6 เดือนแรก อยู่ที่ 462.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.77 ล้านบาท หรือคิดเป็น 7.13% มีกำไรสุทธิรวมรวม 53.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.31 ล้านบาท หรือโตถึง 52.02% ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิ ครึ่งแรกของปี 11.57% เพิ่มขึ้น41.91% ซึ่งมีรายได้รวมประจำไตรมาส 2/67 พุ่งแรง 282.69 ล้านบาท ทำกำไรโตสำหรับงวดของไตรมาสนี้ 27.52 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งทำรายได้ และกำไรโตทะลัก อันโดดเด่นจากผลงานที่อาศัยหลักความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ชั้นสูง จากธุรกิจวิศวกรรมโครงการ ดำเนินการโดยบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เพาเวอร์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เน้นการประมูลโครงการภาครัฐที่มีเทคโนโลยีสูง ได้แก่ โครงการเคเบิลใต้น้ำแรงสูง และโครงการสายส่งไฟฟ้าแรงสูง กลุ่มบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในโครงการขนาดใหญ่ และยังได้รับการรับรองจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และหน่วยงานสำคัญอื่น ๆ โดยธุกิจวิศวกรรมโครงการคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และได้รับแรงหนุนจากการลงทุนของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาโครงการ ร่วมกับต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้เป็นโอกาสขององค์กรที่เคยมีผลงาน และได้รับความเชื่อถือจากองค์กรชั้นนำของประเทศ พร้อมกันนี้ Backlog เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 รอรับรู้รายได้ 647.39 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีโครงการที่ได้รับสัญญาต่อเนื่องระหว่างปี 2567 - 2568 จำนวน 2,271.71 ล้านบาท หนุนเติม Backlog ให้แน่นล้นมือ สร้างฐานธุรกิจนี้ให้แข็งแกร่ง และเติบโตได้ตามเป้าหมาย
ด้านธุรกิจโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นต์เตอร์ ที่ดำเนินการโดย บมจ.อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม หรือ ITEL โชว์ผลประกอบการครึ่งแรกของปี 67 กวาดรายได้ 1,355.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.56% พร้อมทำกำไรครึ่งปีแรก 160.88 ล้าน เพิ่มขึ้น 30.49% โดยทำอัตรากำไรสุทธิครึ่งปีแรก 11.87% เพิ่มขึ้น 13.90% ซึ่งเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 มี Backlog 2,253.00 ล้านบาท คาดรับรู้รายได้ที่มั่นคง และเปิดตัวโครงการใหม่ นับว่าธุรกิจโทรคมนาคมและศูนย์ข้อมูล มีการเติบโตอย่างมาก เนื่องจากความต้องการบริการข้อมูลความเร็วสูงที่เพิ่มขึ้น ITEL ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้เล่นหลัก ในการเป็นผู้ให้บริการสายเคเบิลใยแก้วนำแสง สำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคม รวมทั้ง ITEL ยังได้ใช้จุดแข็ง และขยายเครือข่ายใยแก้วนำแสง เพื่อรองรับหน่วยงานอื่น ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งภาครัฐ และเอกชน
นอกจากนี้ ILINK ยังได้ลงทุนในศูนย์ข้อมูลของ INTERLINK เพื่อจัดหาพื้นที่เช่าสำหรับศูนย์ข้อมูล และยังได้ร่วมมือกับบริษัทต่างประเทศ เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น ETIX ITEL Bangkok Data Center อีกด้วย (สำหรับข้อมูลและการวิเคราะห์ของ ITEL : INTERLINK TELECOM PLC ขอให้ไปดูที่ผลการดำเนินงานของ ITEL โดยตรงจะได้ข้อมูลครบถ้วนกว่า รายละเอียดเพิ่มเติมอ่านต่อที่นี่ : https://shorturl.at/7NRCo)
ทั้งนี้ สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมของผลประกอบการในไตรมาส 2/67 พร้อมอัปเดตข้อมูลบริษัทฯ เผยถึงแผนงานทิศทางการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยผู้ลงทุน และผู้ที่สนใจทุกท่าน สามารถเข้าร่วมรับฟัง ในงาน “Opportunity Day บริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน หรือ Opp Day Q2/2024” ได้ผ่านการถ่ายทอดสดทางออนไลน์ ในวันอังคารที่ 27 สิงหาคมนี้ 2567 เวลา 11.15 – 12.00 น. ซึ่งสามารถรับชมผ่านช่องทาง ดังนี้
ILINK ยืนยันความเป็นหุ้นยั่งยืน ผ่านเกณฑ์ประเมิน SET ESG Ratings ในระดับ A ประจำปี 2567 ตอกย้ำถึงการดำเนินธุรกิจ ยกระดับก้าวสู่การเติบโตแบบมีคุณภาพ
“INTERLINK THANK YOU VIP 2024” รังสรรค์จัดงานเติมเต็มความสุข ฉลองปาร์ตี้ส่งท้ายปี แทนคำขอบคุณลูกค้าคนสำคัญ สร้างความทรงจำสุดยอดแห่งความประทับใจกับที่พักสุดหรูหรา ในภูมิภาคใต้
เริ่มแล้ว ! ช้อปปิ้ง ออนไลน์ครั้งยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี “INTERLINK Clearance Clearout 2024” ล็อกราคาให้ถูกกว่าที่เคยมี ลดสุด ๆ ถึง 90% ราคาเริ่มต้นที่ 1 บาท